วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Mitsubishi Galant GTO-MR

สวัสดีกันอีกครั้งครับ วันนี้กลับมาพบกันเป็นปีสุดท้ายแล้วนะครับ เพราะอีกไม่นานก็จะเริ่มขึ้นปีใหม่กันแล้ว ^O^
หลายคนคงเตรียมตัวนับถอยหลังเคาท์ดาวน์ขึ้นปีใหม่กันแล้ว หลายคนคงเตรียมตัวนับถอยหลังวันโลกแตกกันแล้ว ส่วนตัวผมเตรียมตัวนับถอยหลังวันเรียนจบแล้ว ให้ความรู้สึกเดิมๆเหมือนทุกปี ผมต้องมานั่งสงสัยว่า ทำไมเวลามันผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน และยังให้ความรู้สึกว่าเหมือนเพิ่งจะผ่านมาเมื่อวันก่อนเอง แต่เราก็ต้องไม่ยึดติดกับอดีต แล้วก้าวสู่อนาคตข้างหน้าต่อไป

กลับมาสู่บทความในวันนี้ ที่จะเอามาเล่าสู่กันฟัง ผมขอส่งท้ายปีนี้ด้วยรถ Retro Car ตามสไตล์ของผมก็แล้วกันครับ สำหรับวันนี้จะนำรถจากค่าย Mitsubishi มาเสนอให้ชมกัน เป็นตำนานอีกหนึ่งบท ที่คนชื่นชอบรถเก่าต้องกล่าวถึง Galant GTO และที่มาวันนี้ ไม่ใช่แค่รุ่นธรรมดาทั่วๆไป แต่เป็นรุ่น MR นั้นยิ่งเพิ่มความหายากเป็นอีกเท่าตัวเลยทีเดียว ในบรรดา Galant GTO เราจะรู้จักกันหลักๆอยู่ 2 รุ่น คือ รุ่น MR และ GSR ใน 2 รุ่นนี้มีข้อแตกต่างกันอย่างไร อย่างแรกเลยตามที่กล่าวมาข้างต้น ในรุ่น MR จะเป็นตัวที่หายากกว่ารุ่นธรรมดา อย่าง GSR จุดสังเกตุต่อมา ในรุ่น GSR จะไม่มีสคู๊ปบนฝากระโปรงรถ ไฟท้ายจะมีลักษณะเป็นบั้งเหมือนยศ ส่วนรุ่น MR จะเป็นไฟท้ายสี่เหลี่ยม และลายคาดแนวซิ่งพร้อมกับตัวรถสีส้มเด่นที่มีมากับรุ่น MR แต่ไม่มีในรุ่น GSR และขุมกำลังแรงม้าที่เพิ่มขึ้น มันจึงทำให้เป็นรุ่นที่ทำออกมาเป็นพิเศษ อย่างมีจำกัดจำนวน และนอกจาก 2 รุ่นที่กล่าวมา ยังมีรุ่นอื่นๆอีก อย่างเช่นรุ่นประหลาดๆ คือรุ่น R73-x ที่ถูกส่งออกมาภายหลัง อิมเมจของเจ้า Galant GTO จะมีความเป็นสปอร์ตคาร์ โดยใช้รูปลักษณ์แบบ American Muscle Car มาเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบ และมีดีไซน์ที่โดดเด่นก็คือ ท้ายที่ยกขึ้นเหมือนหางเป็นนั้นเอง นั้นก็คือทั้งหมดกับบทความในวันนี้ ในปีหน้าผมตั้งเป้าไว้ว่า จะทำรถเดือนละคัน แต่ถ้ามีเวลามากขึ้น ก็อาจจะได้เห็นรถใหม่ๆเพิ่มขึ้นครับ วันนี้ก็ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ปีหน้า2013ครับ(ถ้าโลกไม่แตก)



























วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Loi Krathong Festival

ขอกล่าวสวัสดีทุกท่านครับ ^人^ เนื่องในวันพิเศษวันดีๆแบบนี้ เลยอดไม่ได้ที่จะเข้ามาพูดคุยกันนี้ ทุกคนคงทราบกันดีแล้ว วันนี้เป็นวันเทศกาลลอยกระทง ของไทยนั้นเอง หลายคนก็วางแผนที่จะออกไปลอยกระทงกันแล้วกันใช่ไหม ถ้าถามตัวผม ปีนี้ผมคงลอยใส่อ่างเลี้ยงปลาที่บ้านแทนครับ ก็อย่างที่รู้กัน ช่วงเทศกาลจะออกไปไหนต้องเจอคนแออัด มันไม่สบายเอาซะเลย ปีนี้เลยตัดสินใจที่จะอยู่บ้านกันครับ ส่วนใครที่จะออกไปข้างนอกก็ขอให้ลอยกระทงอย่างมีสตินะครับ ก่อนจากกันในวันนี้ผมก็ขอฝากภาพบรรยากาศลอยกระทงจากในเกมมาให้ชมกันครับ แล้วพบกันใหม่คราวหน้าครับ :]





วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Toyota Mega Cruiser

สวัสดีครับ ^-^ เราไม่ได้เจอหน้ากันเกือบ2เดือนแล้วสินะ ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยครับ ที่ทำให้คอยนาน เนื่องจากติดภารกิจหลายๆอย่าง อีกทั้งยังถึงจุดอิ่มตัวของการทำmod เรียกได้ว่าไม่มีไอเดียอะไรใหม่ๆ เลยขอพักเก็บตัวไปสักระยะหนึ่ง ตอนนี้หลายๆคน คงทราบกระแสข่าวของ จีทีเอ ภาคใหม่ที่กำลังจะมาถึงในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า โดยให้ชื่อภาคต่อว่า GTA V ทีแรกผมว่าจะนำข่าวมาลง แต่เห็นว่ามีหลายเว็บได้ลงบทความไว้แล้ว ก็ลองไปหาอ่านดูข้อมูลกันเอาเองนะครับ

แล้วก็ถึงเวลาของเรากันสักที วันนี้จะมีรถอะไรใหม่ๆ แปลกๆ มาให้ชมกันอีกเหมือนเช่นเคย สำหรับวันนี้ผมมีรถที่หน้าตาเหมือน Hummer มาก ถ้าผมไม่บอกว่าเป็นรถอะไร คนส่วนใหญ่ก็คิดว่ามันเป็น Hummer นั้นเอง ที่จริงแล้วรถคันนี้มาจากญี่ปุ่นครับ ใช่แล้ว ประเทศนี้ มักมีอะไรแปลกตาที่เราไม่เคยรู้จักให้เห็นอยู่เสมอ ชื่อเต็มๆของคันนี้คือ Toyota Mega Cruiser ครับ จะเรียกว่าเป็นรถยนต์ที่เลียนแบบมาจาก Hummer ก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าก็เหมือนกับรถ Transformer ของประเทศเรา ที่ออกแบบมาให้คล้ายคลึงกับ Hummer แต่เหตุผลที่ว่าด้วยเรื่อง ราคาการนำเข้าที่แพง ทำให้ต้อง ผลิต สร้าง ขึ้นมาใช้เอง ยังช่วยลดต้นทุนการนำเข้า และอะไหล่ที่ทำเองได้ เพราะฉนั้นก็สร้างเป็นรถคันใหม่ขึ้นมาเองเสียดีกว่า สำหรับในเวอร์ชั่นของเจ้า Mega Cruiser คันนี้ จะมีอยู่ 2 เวอร์ชั่น 2 หน้าตา คือในแบบที่ 1 จะเป็นรถที่ใช้สำหรับ บุคคลพลเรือน ทั่วไป และ แบบที่ 2 จะเป็นรถที่ใช้สำหรับ ทหาร รูปแบบก็จะแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย สำหรับเจ้า Mega Cruiser มักจะถูกนำมาใช้ในทางราชการ และหน่วยกู้ภัยมากกว่า จุดเด่นของรถคันนี้ คนที่ได้มองดูแล้ว จะบอกได้เลยว่า มันเป็นรถที่ใหญ่กว่ารถใช้งานทั่วไป เกือบเท่าตัว จึงเป็นเรื่องค่อนข้างลำบากที่จะเอามาขับในตัวเมือง แต่เป็นของแปลกๆ สำหรับพวกอยากลองหาอะไรใหม่ๆมาขับเล่น แต่ขอบอกเลยว่าต้องมีเงินเหลือจริงๆ



























วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

Toyota Truck RN30

กลับมาพบกันอีกครั้งครับผม ปกติจะมาเจอกันช่วงเดือนถัดไป แต่พอดีช่วงนี้งานยังไม่ค่อยเยอะ เลยพอมีเวลาว่างมาปั้นรถครับ ต้นเดือนหน้าก็สอบแล้ว จากนี้คงต้องเริ่มตั้งหน้าตั้งตาทำงานจริงๆจังๆเสียแล้ว

นานแค่ไหนแล้วที่ผมได้ทำรถกระบะคันล่าสุดไป 2เดือน 3เดือน หรือมากกว่านั้น ผมก็จำไม่ได้เหมือนกันครับรู้แต่ว่านานมาก เพราะฉนั้น บทความในวันนี้ ผมจึงได้จัดทำรถกระบะมาให้ชมกันครับ ที่จริงผมก็ยังมีรถกระบะอีกคันหนึ่ง แต่ยังจอดอยู่ในอู่ครับ ตัวรถยังทำไม่เสร็จเรียบร้อย วันนี้เลยจัดเจ้าคันนี้มาให้ชมก่อนครับ อีกหนึ่งขวัญใจชายไทยกับ Toyota ในรหัส RN30 หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อเรียกว่า "ม้ากระโดด" เป็นรถกระบะที่นิยมกันมากในการทำไร่ทำสวน หรืองานขนส่ง โดยเจ้า RN30 หรือ ม้ากระโดด นั้น หลายคนก็คงเคยเห็นกันไปแล้ว หน้าตาของเจ้าม้ากระโดด จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ตามปีที่ผลิต คือแบบ ไฟหน้ากลม และ ไฟหน้าเหลี่ยม ส่วนใหญ่จะมีคนนิยมนำไปเล่นยกสูงกันมาก และครั้งหน้าถ้ามีโอกาส ผมก็จะลองนำเจ้า ม้ากระโดด คันนี้ ในแบบฉบับยกสูง มาให้ชมกันครับ



























วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2555

Jeepney Philippines

เริ่มต้นวันแรกของเดือนใหม่แล้ว เป็นยังไงกันบ้างครับ เดือนหนึ่งได้พบกันที จริงๆก็อยากเจอกันบ่อยๆ แต่เพิ่งได้เคลียร์งานเสร็จ เลยมีเวลาว่างมาพบปะกันหน่อย

วันนี้มีอะไรใหม่ๆมาให้ดูอีกเช่นเคยครับ สืบเนื่องมาจากกระแสหนัง The Bourne Legacy ที่เข้าฉายไปเมื่อเร็วๆนี้ หากใครที่ได้ชมภาพยนตร์ไปแล้ว(ส่วนผมยังไม่ได้ดู) จะเห็นได้ว่าในภาคนี้จะมีฉากที่บินไปถ่ายทำที่ประเทศฟิลิปปินส์กันด้วยครับ ประเทศเขาจะว่าไปก็เหมือนกับประเทศไทย ของเรา ลักษณะความเจริญความเป็นอยู่ก็จะคล้ายๆกันอยู่ และเมื่อหากพูดถึงประเทศฟิลิปปินส์แล้ว สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศก็คือ รถ Jeepney ครับ ก็เหมือนประเทศไทย ที่มี รถตุ๊กตุ๊ก สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ในภาพยนตร์ The Bourne Legacy จะมีฉากแอคชั่นไล่ล่ากันบนท้องถนนด้วย ซึ่งเราก็จะได้เห็นรถJeepney วิ่งกันให้ทั่ว แล้วที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ ก็คือรถที่ผมจะมานำเสนอในวันนี้ครับ นั้นคือรถ Jeepney ที่ใช้แสดงในหนังเรื่องนี้ครับ พูดถึงรถ Jeepney ก็เป็นรถรับส่งผู้โดยสารครับ ถ้าประเทศเราก็เป็นสองแถว ย้อนกลับไปช่วงสงครามโลก ทหารอเมริกันได้ส่งคนและอาวุธยุทโธปกรมาไว้ที่ประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากสงครามจบลง ทหารอเมริกันก็ได้ทึ้งรถ Jeep มากมายไว้ เพราะไม่อยากขนกลับไป ซึ่งจะปล่อยทึ้งไว้เฉยๆก็น่าเสียดาย ก็มีคนเริ่มคิดเอารถ Jeep มาดัดแปลงเป็นรถขนส่งโดยสาร จนกลายมาเป็น Jeepney ตั้งแต่นั้นมาก็กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำประเทศฟิลิปปินส์ไปแล้ว ปัจจุบันนี้เราก็ยังเห็นรถ Jeepney มากมาย ใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวประเทศฟิลิปปินส์ ก็อย่าลืมไปนั่งรถ Jeepney กันให้ได้นะครับ